Video Teaching of Thai Lanuage skills for Communication

ขอสอบที่จะออกเกียวกับ ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร บทที่๔กับ๕ และ เรื่องแปดสองสี่ 824

เรื่องแปดสองสี่ 824

*****************************
1-ศาลเจ้า กับ เทาห์เหาห์ อยู่แนวเดียวกัน
2-ฉากที่ไม่สัมพันธ์กับตัวละคร
   **ห้องช้าวบนชั้น๒...มีนา กับ แม่
3-สถานบ้านไม้แก่..สุดซอยพอดี
   **ลุงสุข กับ ป้าแสง
4-ที่ดิน..แมว..ตาย
   **ลุงต่อ
5-บ้านอยู่ในตึกลองกุงสูง...ใหม่
   **สันทัด
6-เหตุการณ์ที่ยอนเวลาคือ
   **อ่านจุดหมาย มีดนตรี
7-การกล่าวเรื่องบอกถึงตระกูลป้าแสง...สมบิตเพียง...น้อยสุดซอยเท่านั้น: เป็นการ..กล่าววเรื่องแบบไหน
   **ให้เห็นรูปภาพ
8-แปดสองสี่ กล่าวเรื่องแบบไหน
   **ผู้แต่งเป็นผู้กล่าวเรื่อง
9-อย่างแร็กต้องโทษ ซอยอยู่สบาย ..เปิดเรื่องแบบไหน
   **ปัยายฉาก
10-ในเรื่องผู้เขียนแน่นำผู้อ่านให้รู้จากตัวละครทั้ง8ให้เวลาเดียวกันไหม
   **ไม่เดียวกัน
11-หัวใจ...ยินดี..โลกเล่นอยู่ใน..
   **บุคลธิฐาน
12-แนวคิดที่ได้จากการลอยครอง ลุงต่อ และ มอมแมม คืออะไร
   1-บ้างครั้งการลอยค..มีหวังในชีวิด
   2-..เป็นสิ่งที่รายสาระ..
   3-..ไม่เคยนำมา..ความหวัง
   **4-ผู้ที่ทำได้เพียง...ชีวิด
13-แนวคิดของ824ถูกต้องที่สุดคืออะไร
   **ความรัก ความช่วยเหลือ
14-คนอย่างเร็า ไม่เคยขอใครกิน........: คำ..ลุงต่อ....
   1-คนที่มีสัศรีต้องไม่...ใคร
   2-คนที่มีสัศรีต้องขยันทำอาหารกิน
   3-คนที่มีสัศรีจะสามารถแก้ไขปํญญาได้ตัวเอง
   **4-คนที่มีสัศรีต้องรู้จักช่วยตัวเอง
15-.....ป็าแหวง................อางขนางคือ
   **อาย
16-จุดวิกฤตของเรื่อง824คือตอนไหน
   1-แสงดาว...
   2-มิเชลติดอยู่บทตึก..
   3-มีผู้ส่งสทเจ๊ศรี...
   **4-ไฟไหม้ศาลเจ้าที่ซอยอยู่สบายตอนตี๒
17- อะไรเป็นเหตุการณ์สุดท้าย
   1-งานฉลองที่ศาลเจ้า
   2-ลุงสุขเต้นรำกับป้าแสง
   3-ไฟไหม้เทาร์เหาร์สี่ชั้น
   **4-ลุงต่อและมอมแมมกลับบ้านที่ซอยอยู้สบบาย
18-ในขณะไฟไหม้ศาลเจ้า เหตุการณ์ไม่ปรากฎตอนไฟไหม้
   1-ลุงสุขหนั่งอยู่ที่แครลุงต่อ
   2-ลุงต่อไปหนั่งอยู่ใตสพาน
   **3-มิเชลไปพักที่ห้องป้าแหวง
   4-ป้าแหวงไปน้อนที่บ้านบันทา
19-เรียงลำดับเหตุการณ์
    2-มิเชลขับtaxiให้ลุงสุขป้าแสง
    1-สันทัดรับมีนาไปส่งที่โรงเรียน
   5-ไฟไหม้ศาลเจ้า.....
   4-วิชา.....ยาเสพติด
   6-มอมแมมตามไปอยู่กับลุงต่อ
   3-สุขวิทย์ได้รับจุดหมายจากแสงดาว
20-ใครทีีมีสักศรี
   **ลุงต่อ
21-มิเชล ไม่ได้ทำอะไรบ้าง
   -สัก...
   -นวด..
   **-
   -taxi
22-คุณที่รู้จักความรักมากๆ
   **ป้าแหวง
-ใครตาย. เจ๊ศรี
-ใครมีลงเชื่อความรัก. ป้าแหวน
-ลำดับเรือง. สันทัดรับมีนา...มอมแมม
-จุดวิกฤต. ไฟไหม
-สุดท้ายของเรือง. สุงต่อนำมอมแมม
-อางขนาง. อาย
-งานของมิเชสไม่เคยทำ. ยาม
-จุดพิดของเรือง. เทาร์เฮาร์สร้างใหม่
-ผู้แต่เริ่มเรืองโดย . ปัยายฉาก
-เรือง824. ผู้แต่นักกเล่วเรื่อง
-ความหมายของ824. เฉลยที่4ยาวที่สุด
-ใครที่มีความสู้. สันทัด
-ทำไหมมอมแมมรออยู่สพาน. ความวังผกผัน
-มีนาเคยเรียนพาณิร์​​ และ เป็นพริตตี้
-ประโยคที่ไม่ได้ปะรยก. ลุงสุขไปนั่งแครลุงต่อ
================

บทที่ ๔ สารจรรโลงใจ

1-จรรโลงใจ...เกิดความเพลือดเพลือ,ข้อคิด,
   **มีความรู้

2-สารจรรโลงใจที่ดีที่สุด...
   1-ร้องเพลงไฟเราะ
   2-ทำอาหารไทยใครว่ายาก
   3-ใช้คอมพิวเตอร์สับายจัง
   **4-เพลงรักมีอายุธรรม มีกำลังใจ
-การใช้ภาพพจน์ (มีอีก..สรรคำ,เล่นคำ,
เล่นเสียง)
    ...การอุปมา(เหมือน),อุปลักษณ์
(เป็น),นามนัย หรือ สัมพจนัย,
อติพจน์(เกิดจริง),บุคลาธิฐาน
(ไม่มีชีวิดให้มีชีวิดเหมือนคน)
3-ข้อใดไม่ปราฎดภาพพจน์
   1-เสียงกระสิบจากความเงียบ
   2-ทะเลพิรอด.....แสงฟ้าหัวเราะ
   3-ต้นไม้แต่งตัวประอาทิดธ์ยิ่ม
   4-ศูณการขาเปิดใหม่ไม่มีใครสักคน
   **5-เทียวหาโยงยาให้แดนดอง
-นามนัย: การเปลียบเทียบมีหลายลักษณะ
-อุปมา: มีคำว่า คัง เหมือน เช่น....
4-เดือนตกไปแล้วดาวแข็งแสงขาวเหมือนกระแก้ว
  **อุปมา
-อติพจน์: พูดเกิดความจริง
-อุปลักษณ์: เปลียบเป็น คือ อาจจะไม่มีคำนั้นเป็นเท่า ซึ่ง
-บุคลาธิฐาน: สิ่งที่ไม่ใช่มนุษร์ ใช้คำกิริยาเหมือนกับมนุษร์
5-ดาวบ้างดวงประพลิดพลาน.....ใหญ่ แยมยิ่มยอมเอือนกัน
   **บุคลาธิฐาน
6-เห็งเต่าเคลา...ดอกไม้ใส่....รางเร้มรอน
   **อุปลักษณ์
-เนื้อเพลงที่มีความหมายจรรโลงใจ(สับายอาจจะเป็น ธรรม ถ้ามีเคลียดๆไม่ใข่)
7-เนื้อหาไม่เป็นเพื่อการจรรโลงใจ
   1-การให้จนำความสุขมาให้..ผู้ส่งผู้รับ
   2-เราเกิดในแผ่นนี้จะตอบแท่นบุลคูล...
   3-การกระทำความดีส่งผลต่อผู้กระทำ.
   **4-มนุษร์ต้องต่อสู้ทุกวิธีทางเพื่อชีวิดที่ดี
-คุณค่า: อารมณ์,สติปํญญา,ระดับจิตใจ
8-ข้อใดไม่ใช่คุณค่าของสารจรรโลงใจ
   **ด้านสังคม
9-ความคิดเป็น..ใหญ่ความกระทำ...ควรคิดก่อนพูด จึงช่วยกันให้บุคคน สามารถ...พูดแต่สิ่งที่ดี และ มีประโยชน์ =>ให้คุณค่าด้านใด
   **ด้านสติปัญญา
-คุณค่าด้านสติปัญญา: ยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ให้คิดตามได้ นำประโยชน์ใหชีวิด
10-คุณค่าแต่กต่างจากข้ออื้น
   1-มีสนึงพึงปํญจบ..สิ่งของ ต้องประสบณ์....แต่ยากนาน
   2-...เจ็บจนตาย
   3-..........
   **4-ถึงดิน...มหาสมุด ไม่สินสุด ความ
รับสมักสมาน...ใต....ขอพบ...
-การฟังสารจรรโลงใจ ฟ้งแล้ว สบายๆ ตังใจ
ฟัง ฟังแล้วมีวิจารณญาณ มี่จินตนาการ
11-ข้อใดไม่ใช่ อุปลักษณ์
**.....คือ......
12-เธอเป็นมากกว่ารับ เพราะเธอคือเครื่องชีวิด ฉันใช้เวลาทั้งชีวิดตามหาและ....สุดท้าย...
ทุกอย่าง...หัวใจ จากนี้ทุก...
**อติพจน์
-สรรคำ: การเลือกคำ
-เปลียบเทียบโดยตรง: มีคำว่า เหมือน ดัง
-คำว่า คือ ถ้าเปลียบเป็น คือ อุปลักษณ์
ถ้าเปลียบเหมือน คือ อติพจน์
13-ข้อใดที่ไม่ใช่เป็น​ อุปลักษณ์
1-เธอคือหว่านเย็น...เต็มห้วใจที่ฉันมี
**2-ตั่งแต่วันที่ได้เจอ เธอคือเหตุผลฉัน..
3-คำพูดที่ไม่เคยคิดที่จริงก็คือ....
4-ฉันรู้ว่ารักส้วยงาม...รักคือไฟที่.ตาย
-หาสยรส: ความสนุกสนาน
14-รูปหลายสื่อคน...หนังมองสองกระจก...
ผมเท่าที่ดู...
**หาสยรส
15-อ่านสารจรรโลงใจ ได้แก่ เรื่องสัน นิยาย นิตยสาร สาระคดี **อย่างอื้นก็เป็นนั้นละ
16-ข้อความประชาสัมพันธ์..นิสิตเข้ารวมโครงการ..บูราพาภาษาไทย
**ไม่เป็นสารจรรโลงใจ
17-สารคดีที่ไม่เชื่อเพราะ
**ผ่านมาจามวมองผู้เขียนคนเดียว
18-สารคดีไม่ใช่ตำราทางวิชาการ
19-อนิจารณ์แสนเดือน...หัวใจ...นำ้ตาเห็น..
จักจันธ์..เสียงธรรชาติ...: นำ้เสียงกับข้อใด
1-ผู้พูดรักธรรมชาติ
2-ผู้พูดนำ้เสียง..สังเกด
**3-นำ้เสียงเสาโสก
4-นำ้เสียงเงียบสงบของธรรมชาคิ
20-ยากทอแท้จงตังสติ...ทุกสิ่งทุกอย่าง....
จงทำใจปฎดให้ถูกต้อง:ให้ข้อคิดเกียวกับเรื่อง
**1-ความไม่ประมาด
2-ไม่มีสิ่งใดเทียงแท้
3-จิตใจแข็มแข้ยกเป็น...เสมอ
4-อยาทุธร์อยากสุข
-วัฒรรสิน
-สัมพัดอักษร: ใช้ consenant เดียว
กัน
-เล่นคำที่ขัดแย็ง:
21-ทุกพชาติ อยู่ในสิ่งที่ไกล้เส้นไกล้สู ไม่มีใครได้....มากมายเอย : ข้อความควรเป็นข้อใด
1-คอกไม้ที่มีสีส้วย....
**2-สิ่ที่ดี.....ใช้ประโยชน์...
3-ธรรมชาติและชีวิดยอม...
4-ดอกไม้ที่อยู้ใน....ไม่มีใครชม
22-เมียจะตายตามหัวกลัวพี...หายใจไม่ออก
เมื่ออา...จะจนนำ้ให้ตาย
**อารมณ์แค้น
23-จะขอ..เธอว่า..รัก...เป็นน้องของพ่อฉัน..
ต้องทอนฝัน แค่.....อาสีคุณ
**หาสยรส
-จุดมุ่งหมายจรรโลงใจ
.ให้เข้าใจชีวิดมากยิ่งขึ้น
.ฟังแล้วมองโลกในแง้งาม
-พูดให้โอวาด
.ให้ข้อคิด
24-เพื่อนจะไปสอบแข็งขันจะพูดอะไรจะดีที่สุด
1-ฉันว่าแล้วถ้าเขาไม่ไปเธอก็ต้องได้ไป
2-แน้จะไม่ใช่...แต่เธอก็..มากเลย
3-เธอเนียกมามื้อจริงๆ มาแร็งใส่..
**4-ฉันว่าแล้ว..อย่างไงๆ..ต้องได้เงียบจริงๆ
25-อวยผอน
**ขออำนาจสิ่งสักสิทธ์...ความสุขความเจริญ
26-สาระสำคัญต่อความรัก
**1-ความรักทำให้เกิดความสุข
2-ความรักควรเริ่มจากรักตัวเองให็เป็นก่อน จะรักคนอื้น
3-ความดีทำให้ความรักได้สุข..นาน
4-การทำความดีต่อคนรัก....ความดีต่อคนอื้น
27-คนที่ยกหนังสื่อมาเรียนทำรู้อะไร
**ความชอบของเขาด้วย
-วิจารณ์คือ​: การแสดงความคิดเห็นที่มีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
28-...ฉันได้รับ..ที่๒คือนับเวลา เป็นเรื่องราวของคนแก่..อุปนิสัย
**ไม่เป็นวิจารณ์
-วิภาควิจารณ์: การแสดงความคิดเห็นที่มีการตัดสิน และ ต้องมีข้อดีกับข้อเสี่ยด้วย
***************Chapter 5****************
**************สารโน้มน้าวใจ****************
29-...ทิธร์ สินค่าหลากหลาย ส่งถึงบ้านฟรี..
โทร 0229...: มีลักษณะสารโน้มนาวใจอย่างไร
1-..ความสนใจ
2-จุดมุ่งหมายที่ชัดแจนแน่นอน
3-บอกให้รู้คุณประโยชน์..
**4-มีส่วนกระตุ้น..เกิดการปฎิบัติ
-กฎของหายาก: มีกำหนดชัดแจน ตังแต่วันนี้
ถึงวันที่เท่าไร
-กฎสังคมอยมรับ: ใช้สิ่งใดสิ่งที่มีการมอ
บรังวัล มีการอังอิง
30-ข้อใดปะจัยสำคัญเบื้องต้น ที่ทำการโน้มน้าวใจบันทึกผลสำเร็จ
**1-การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย
2-ความสามารถในการสื่อสาร
3-การวิธีการสื่อสารที่ดี ที่เหมาะสม
4-การมีสมาธิในขณะที่สื่อสาร
-กฎแห่งการตอบแท่น
31-การสุ่มต้นไม้๑ลานต้น เป็นกฎอะไร (การที่เอาดารามา เอาภาพพายนต์มา..)
**กฎความชอบ
-การใช้ภายาน: การหาลักฐาร และ เหตุผล ดัวยการใช้ภายาน
.มีข้อความมีตัวบุคคนขึ้นมา
32-หลาน...เข้าโรงพายาบ้าน...ตกใจมากเมื่อน้องสไพ โทรมาบอก...เด็กถึงอายุ๕เดือน..
..รักษารกี่ครั้ง​แต่ละครั้งต้องใช้เงินมาก..
"สารโน้มน้าวนี้ตรงกับเหตุและข้อใด"
**กฎใช้ภายาน
33-อุปติเหตุจากคนอื้นที่ขับรถโมเตอร์ไส...กับบตัวเอง มีประโยชน์ต่อใครบ้าง
1-ผู้รับสาร​ ผู้ส่งสาร
2-ผู้รับสาร หน่วยงาน
3-หน่วยงาน สังคม
**4-สังคม ผู้รับสาร
-ความต้องการ (masslo)
34-การขายประกันชีวิดเพื่อป้องการอนาคดต่อลูกของคน ต้องการอะไร
**มั่นคงปลอดภัย
35-กฎของหายากคือ
**จำกัดระยะเวลาที่ชักแจน
-การใช้ภาษาสดูดใจ
-การใช้ภาษากระตุ้นทางจิตใจ
-การใช้ภาษาให้รายละเอียด
36-คาโฝซอบ 600 ฟรี 1ลาน เป็นการส่งสารโน้มน้าวใจแบบไหน
**จุดจงใจให้รังวัล
37-การยกตัวอย่างที่ใช้เหตุผล รูปธรรมคือ
การเลือกสิ่งเป็นตัวอย่างผู้รับสารเห็นภาพ
38-กำหนอเป้าหมายที่สำคัญคือ
**เป้าหมายตรงข้ามความต้องการ
39-ตัวอักษร..ชัดพิเศษ ต้องหว้างที่
**หมุมบนซาย
38-สมมุติไปขอเงินสนับสนุน...ข้อใด้ไม่ใช่วิธีสร้างความน่าเชื่อถือ
**1-ยิ่มแย้มแจมใส้ พูดจาเป็นกันเอง
2-น้องแต่งกายสุภาพ..มาลยาด
เหมาะสม
3-มีเอกสารรับร้องจามาหาวิทยาลัย
4-ตอกข้อสอบถามบริษัตได้ชัดแจน
39-ข้อไหนเกียวกับสารโน้มน้าวใจตอบสนอง
1-ออดเปรียวให้กินหว่านคือ
2-ตืนตามหลังผู้ใหญ่มาไม่กัด
3-ช้าๆได้บราสองเล็มงาม
**4-เข้าเมื่องตาลีวต้องลีวตาตาม
40-อะที่ได้ผลมากกว่าข้ออื้น
**1-การขายสุราให้คนอายุตำ่กว่า18ปี ผิดกฎหมาย

สรุปบทที่ ๔ กับ ที่ ๕ ของภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร

   ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
********************************************
Chapter 4 : สารประเภทจรรโลงใจเป็นที่ มี่ความเพลิดเพลิน ข้อคิด ความรู้
(สาระ ความเพลิดเพลิน)
-การสรรคำ(การเลือกคำใข้ ที่ เพราะ เห็น ภาพ มี่ความรู้สึก )
-การเล่นคำ และ เล่นเสียง(ใช้คำซำ้ๆ)
-การใช้ภาพพจน์(การเปรียบเทียบให้รู้สึกว่าเห้นภาพ)
--การเปรียบเทียบโดยตรง หรือ
อุปมา(Simile)-->การเปรียบเหมือน
-ใช้คำ เหมือน,ยังกับ
-ตัวอย่าง
    เจ็บเหมือนมีดกรีด
--การเปรียบเทียบโดยนัย หรือ อุป
ลักษณ์(Metaphor)-->การเปรียบ
เป็น
-ใช้คำ เป็น,คือ
-ตัวอย่าง
ลูก เป็น ดวงตาดวงใจของพ่อแม่
    ผมสีดอกเลา
--การเปรียบเทียบสิ่งที่ตรงกันข้าม(ขัด
แย้งกัน ไม่สอดคบ้องกัน )
-ตัวอย่าง
    เก่งเป็นบ้า
    รีบทำอย่างช้าๆ
--การเปรียบเทียบโดยใช้สิ่งหนึ่งเทียบ
อีกสิ่งหนึ่ง หรือ นามนัย(Metonymy) , สัมพจนัย(Synecdoche)
-การใช้คำ หรือ วลี
-ตัวอย่าง
  เก้าอี้   (ตำแนง)
-การกล่าวถึงสถานที่แต่หมายถืง คน(สิ่งใหญ่แทนสิ่งเล็ก)
-ตัวอย่าง
    เจ้าแผ่นดิน
-การกล่าวถึงชื่อคนแต่หมายถึง
ผลงาน
-ตัวอย่าง
  เทอมหน้าจะเรียน "โม    ลิแยร์
   "โมลิแยร์" หมายถึงจะ
   เรียนผลงานของเขา
-การกล่าวถึงส่วนย่อยของสิ่งใด
สิ่งหนึ่ง(สิ่งเล็กแทนสิ่งใหญ่)
-ตัวอย่าง
  กินข้าวกัน ("ข้าว" มิใช่   กินอย่างเดียว)
-การนำชื่อเครื่องหมายการค้า ของสินค้า บริษัท​ กลุ่มคน หรือ
สัญลักษณ์มาใช้แทน
-ตัวย่าง
  มาม่า(บะหมี่กึ่งสำเร้
         จรูป)
  ชันไลต์(นำ้ยาล้างจาน)
-การเปรียบเทียบโดยใช้คำเกิน จริงหรืออติพจน์(Hyperbole)
(คำพูดที่เกินจริง)
-- รักคุณเท่าฟ้า
-บุคลาธิษฐาน(ทำให้สิ่ไม่ชีวิด
 มีอากัปกริยา)
--การรับสารประเภทจรรโลงใจ
-การฟังสารประเภทจรรโลงใจ
วิธีฟัง
 -ตั้งใจ..สบาย
   -พิจารณาว่าอย่างไร
 -เหมาะสม สมเหตุผล
 -ฟังอย่างเข้าใจ
 -จับสาระสำคัญ
 -จินตนาการ
 -เหมาะสมกับรูปแบบ
   เนื้อหา ผู้รับสาร หรือไม่
เพลง
กวีนิพนธ์
นิทาน หรือ ปกิณกะ
ธรรมะ
-การอ่านสารประเภทจรรโลงใจ
--ขั้นตอนการอ่านสารประ
เภทจรรโลงใจ
   -การอ่านสารคดี
สารคดี
  -สารคดีชีวประวัติ
   และ อัตชีวประวัติ
  -สารคดีรายงาน
                        เหตุการณ์
  -สารคดีท่องเทียว
  -ขั้นตอนการอ่านสารคดี
     ๑.จับใจความสำคัญ
     ๒.วิเคราะห์ความคิด         เห็นของผู้เขียน
     ๓.พิจารณากลวิธีการ
เขียน
                               -ตั้งชื่อเรื่อง
       -โครงเรื่องมีลำดับ
       -ดำเนินเรื่องอย่างไร
       -ถูกต้อง ทันสมัย
       -มี่ภาพประกอบ
     ๔.การพิจารณาความ
ประสานกลมกลืน
-การอ่านบันเทิงคดี
    ปฎิกิริยาทางอารมณ์
฿฿฿     -ศฤงคารรส (รสแห่งรัก)
***-หาสยรส       (รสแห่ง ความสนุกสบาย)     -เราทรรส (รสแห่ง ความแค้นเคือง ความโกรธ)
    -วีรรส (รสแห่งความกล้า หาญ ความมุ่งมั่น อุตสาหะ)
   -กรุณารส (รสแห่งความทุกข์ โศก สงสาร กรุณา)
   -ภยานกรส (ความกลัว)
   -พีภัตสรส (ความน่ารังเกียจ
เบื่อระอา ชิงชัง)
   -อัทภุตรส (ความพิศวง อัศจรรย์ใจ)
  -ศานตรส (ความสงบ)
---อุงประกอบ เรื่องสัน (824เป็นเรื่องสัน)
       1แนวคิด
2-โครงเรื่อง
3-ตัวละคร
4-ฉาก
5-กลวิธีการดำเนินเรื่อง
---นิตยสาร a day : รายเดือน..เรื่องคนวัย หนุ่มสาวใหม่..แปลกใหม่ สารคดี
---นิตยสาร มติชนรายสัปดาห์ :
การเมือง....ศิลปะ..วัฒนธรรม
---จุดมุ่งหมายของการพูดจรรโลงใจ
1-เพิ่มให้คลายทุกข์
2-เพิ่มให้เพิ่มสุข
3-เพิ่มให้คติข้อคิด
---ลักษณะการพูดจรรโลงใจ
1-พูดให้คนฟังมีประโยช
2-พูดให้โอกาศต่างๆ
3-พูดที่มีทางการ (ปีใหม่....)
4-พูดให้คำแน้นำ
---การกล่าว สุนทรพจน์
_คำพูด อ่อนหวาน ไพเราะจับใจ....
ในโอการ กล่าวปฐมนิเทศต่างๆ
---การเขียน วิจารณ์​ : ข้อ ดี เสี่ย อะไรบ้าง
--ชนิดการวิจารณ์
1-จิตวิจารณ์
   --อารมณ์รู้สึกของผู้วิจารณ์
2-อรรถวิจารณ์
   --แปล หรือ ตีความ
3-วิพากษ์วิจารณ์
  --ข้างบททั้งสองอย่าง
---คุณสมบัตของผู้วิจารณ์
1-ต้องมีความรอบรู้ วิจารณ์เรื่องไหน
ต้องรู้เรื่องนั้น
2-ความเคลื่อนไหวของวงการ เปลียน
แปลงตามกาลทะสะ
3-ต้องมี่ความคิดที่เฉียบแหลม หรือ
ความสามารถรู้ถึงแก่นเรื่อง
---คุณค่า
-ค้านอารมณ์....ความสุขแนๆ
-ด้านสติปํญญา..มี่ประโยชน์ต่อชีวิด
-ด้านยกระดับจิตใจ..อ่านแล้วเกิด
รส(9รส)
********************************************
Chapter 5 - การสื่อสารเพื่อโน้มน้าวใจ
--โน้มน้าวใจสามารถเปลียนแปรสิ่งใดๆได้
--โน้มน้าวใจเกิดประโยชน์ต่อ
1-ผู้ส่งสาร
2-ผู้รับสาร
3-หน่วยงาน หรือ องค์กร
4-สังคม
--จุดมุ่งหมายในการโน้มน้าวใจ
1-เชื่อในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่ปฎิบัติ
ตาม
2-เชื่อแล้วปฎิบัติตามในแค่เวลาสั้น
หนึ่ง
3-เชื่อแล้วปฎิบัติตามต่อไปตลอด
--ลักษณะ โน้มน้าวใจ
1-จุดมุ่งหมายชัดแจนแน่นอน
2-ใช้คำพูดน่าสนใจ ติดหู
3-บอกให้รู้คุณประโยชน์ที่ได้รับ
4-ชี้ให้เห็นผลดีเสี่ยจะเกิดขึ้น
5-ตอบสนองผู้รับสารในด้านต่างๆ
6-แสดงน่ารู้สึกเป็นมิตร จริงใจ
น่าไว้วางใจ
7-กระตุ้น ให้เกิดการปฎิบัติ
--องค์ประกอบพื้นฐาน โน้มน้าวใจ
1-ผู้ส่งสาร...มีความน่าเชื่อถือ..อายุ
เพศ อาชีพ ...
2-สาร...ถ้อยคำ..คำพูด มีความสนใจ
3-สื่อ...การนำข้องทางด้านต่างๆ
Radio TV Magazine News ....
4-ผู้รับสาร...ข้อมูลที่ส่งให้ผู้รับสารไม่
เหมือนกัน ต้องดูสถานะความเป็นอยู่
อารมณ์ต่างๆ
5-สถานการณ์...สถานการณ์เหมือนกัน
เมาะสม ระหวังผู้ส่งและรับสาร
--ลักษณะต่อผู้รับสารที่ได้ผล
-ผู้หญิง มากกว่า ผู้ชาย
-วัยเยาว์ หนุ่ม มากกว่า วัยแก่
-ระดับสัติปํญญาเฉยียวฉลาดามากกว่า
เท่าใด จะยิ่งถูกโน้มน้าวใจได้น้อยลง
เท่านั้น
-การศึกษาระดับสูง ยอมรับฟังมากกว่า
-มีความมั่นใจต้นเอง ไม่กลัวการรับฟัง
-ประสบการณ์ และ ภูมิหลัง ไม่อยาฟ้ง
ซำ้ไปซำ้มา
-บุคลิกภาพภายใน ​คิดต้นเองถูกเสมอ
ยากในการโน้มน้าว

---

เฉลยท้ายบทที่ ๕
 ๑.การโน้มน้าวใจคือ การพยายามทำให้บุคคลอื่นเปลี่ยนการกระทำ หรือทัศนคติ
๒.การโน้มน้าวใจที่ดี มีประโยชน์ต่อ ผู้ส่งสาร ผู้รับสาร หน่วยงานหรือองค์กร และ สังคม
๓.การโน้มน้าวใจประชาชนผู้ขับขี่มอเตอร์ไซด์ให็สวนหมวกนิรภัย มีประโยชน์ต่อ ผู้รับ และ สังคม
๔.หลักการโน้มน้าวใจที่ดีที่ควรยึดถือเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่ายควรยึดถือหลัก คือต้องเป็นการโน้มน้าวใจที่ตั้งอยู่บนพื้นฐาน
ของความคิดที่ดี ยึดถือหลักของการมีคุณธรรม และ ศีลธรรมอันดีงาม
๕.จุดมุ่งหมายในการโน้มน้าวใจมี
-เพื่อชักชวนให้เกิดความรู้สึกคล้อยตาม ยอมรับ และ เกิดความเชื่อถือศรัทธา
-เพื่อกระตุ้นให้เกิดการกระทำและลงมือปฎิบัติ
-เพื่อเปลี่ยนแปลงความรู้สึกนึกคิด
๖.การโน้มน้าวใจ ให้ปิดไฟทุกครั้งหลังใช้งาน เป็นการโน้มน้าวใจเพื่อจุดมุ้งหมาย เพื่อกระตุ้มให้เกิดการกระทำ และ ลงมือปฎิบัติ
๗.ข้อความที่ว่า " ลูกมากจะยากจน " มี่ลักษณะการโน้มน้าวใจให็ผู้รับสารเกิดความคิดเห็น และ ไม่อยากมีลูกมาก กลัวว่าจะจนจริง
๘." รีบๆ หน่อย...ก่อนที่นั่งจะเต็ม !! "
" ฮ่องกง , เซี่ยงไฮ้ , โตเกียว , เคลลี , มุมไบ "
" Air - Iadia สายการบินที่รักคุณ "
โฆษณานี้มีลักณะการโน้มน้าวใจให้ผู้รับสารเกิดความคิดเห็นว่าต้องรีบไปจองที่นั่ง ถ้าเราจะไป ฮ่องกง , เซี่ยงไฮ้ , โตเกียว ,
เคลลี หรือ มุมไบ กับเครื่องบินชื่อ Iadia มิฉะนั้นเราจะไม่มีที่นั่งเลย
๙. ตอบ
- ผู้ส่งสาร
- สาร
- สื่อ
- ผู้รับสาร
- สถานการณื
๑๐. ตอบ ๔.ภาพข่าวพร้อมคำบรรยายในหน้าหนังสือพิมพ์
๑๑. ตอบ ความต้องการความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย เป็นความต้องการทางจิตใจ
๑๒. ตอบ ผู้ส่งสารต้องทราบว่า ผู้รับสารมีความต้องการอยู่ในระดับใด จึงนำเสนอสารให้สอดคล้องกับความต้องการ
๑๓. ตอบ กฎแห่งการตอบแทน
๑๔. ตอบ กฎที่ว่าด้วยความเก่ง
๑๕. ตอบ กฏที่ว่าด้วยการเสนอภาพความขัดแย้ง
๑๖. ตอบ จุดจูงใจโดยใช้ความกลัว
๑๗. ตอบ การเปลี่ยนแปลงด้านความรู้และทัศนคติ และการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม
๑๘. ตอบ การเปลี่ยนแปลงด้านความรู้และทัศนคติ
๑๙. ตอบ ผู้รับสาร รับรู้ เชื่อถือและเปลี่ยนแปลงทัศนะคติหรือการกระทำบางอย่าง เลิกเชื่อถือสิ่งที่เคบปฏิบัติ
๒๐. ตอบ ๑.ขั้นประสบความสำเร็จ
๒.ขั้นประสบผลเกินคาด
๓.ขั้นประสบผลถาวร
๒๑. ตอบ ผิด
๒๒.ตอบ ถูก
๒๓. ตอบ ถูก
๒๔.ตอบ เพราะเนื่องจากคนที่อายุมาก จะมีประสบการณ์และผ่านอะไรมามากกว่าผุ้ที่มีอายุน้อย จึงทำให้เกิดความมั่นใจในตัวเองสูง และไม่เชื่อใครง่าย ๆ ส่วนผู้ที่มีสติปัญญาจะคิดวิเคราะห์ก่อนเสมอว่าควรจะเชื่อหรือไม่ เนื่องจากมีความรู้และเป็นผู้มีสติปัญญามาก
๒๕. ตอบ การรู้กาลเทศะ
๒๖. ตอบ เป็นการใช้ภาษาที่สั้นกระชับ มีน้ำหนักและความหมายเป็นคำคล้องจองมีจังหวะลีลาซึ่งง่ายแก่การจดจำ เนื้อหาของคำขวัญให้ความหมายที่ตอกย้ำสิ่งที่โน้มน้าวใจ
๒๗. ตอบ ใช้ภาษาแบบสะดุดใจ
๒๘. ตอบ ๑ “ร่วมกันทำความดีเพื่อถวายในหลวงของเรา”
๒๙.ตอบ ๒.”ร่วมกันสร้างความดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน”
๓๐. ตอบ การสัมผัส
๓๑. ตอบ มุมบนด้านซ้ายมือ
๓๒. เชื่ออวัจนภาษา

เรื่อง แปดสองสี่ 824 (รายข้อมูลของตัวละครทั้งแปดชีวิต)

824**824**824**824**824**824**824**824**824**824**824**824**824
ตัวละครในเรื่องนี้มีดังต่อไปนี้

1. สุขวิทย์ และ แสงดาว

    นับได้ว่าเป็นสองคนแรกที่กล่าวถึงในเรื่อง โดยกล่าวว่า ทั้งสองคนนั้นเคยเป็นลูกผู้ดีแต่ต้องมาตกยากลำบากในซอยอยู่สบายแห่งนี้ แต่ที่จริงแล้ว สุขวิทย์ หรือ "ลุงสุข" ที่ผู้แต่งใช้ชื่อนี้ดำเนินเรื่องนั้น  เป็นนักลีลาศทีมชาติ ที่บังเอิญมาหลงรัก แสงดาว หรือ "ป้าแสง" ลูกสาวนายพลชื่อดัง ที่เป็นอาจารย์พิเศษที่สอนลีลาศ ในมหาวิทยาลัยของสุขวิทย์ ซึ่งบัดนี้ แสงดาวนั้น ป่วยด้วยโรค FTD หรือโรคพิก(PICK) จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อีก

2. ลุงต่อ

   นับเป็นตัวละครตัวที่สองที่กล่าวขึ้นในเรื่อง ลุงต่อมีนิสัยรักศักดิ์ศรี ไม่ยอมง้อขอใครกิน ขายเลือดให้กับธนาคารเลือดประทังชีวิต มีลูกก็ทิ้งระยะการส่งเงินมานานจนแทบจะหายไปเลยก็มี ลุงต่อจึงต้องดูแลตัวเองตามอัตภาพ  บ้านของลุงต่อเท่ากับแมวตัวโตๆดิ้นตาย  และลุงมีนิสัยขี้เมาอีกอย่างหนึ่งด้วย และชอบใช้วาจารุนแรงตอนเมาอีกต่างหาก

3. มอมแมม

   มอมแมมเป็นสุนัขที่ชอบมาอาศัยอยู่บริเวณศาลเจ้า  เสมอเป็นเจ้านายของสุนัขตัวนี้ ที่ประสบอุบัติเหตุใต้สะพานลอย... มอมแมมเป็นสุนัขที่ค่อนข้างจะฉายแววพิเศษออกมา มอมแมมดูเหมือนจะเข้าใจโลก เข้าใจมนุษย์

4. มีนา

  มีนา จากเนื้อเรื่อง กล่าวว่า มีนาเป็นผู้หญิงที่หน้าตาไม่สวยเท่ามารดา มักโดนสบประมาทบ่อยๆว่า "แบบนี้จะหาคู่ได้หรือ" เป็นประจำ มีนา มีงานพิเศษที่ทำเป็นประจำ คือการโชว์ตัวแสดงสินค้า ตอนแรกเธอเองก็คิดว่า หน้าตาอย่างเธอไม่มีหนุ่มไหนๆมามองมาจ้องเป็นแน่ แต่แล้วเธอก็พบคำตอบในตัวเธอ รูปร่างของเธอนั่นช่างอวบและดูสมส่วนจนชายหนุ่มแทบละสายตาไปไม่ได้เลยเชียวล่ะ..

5. มิเชล

  มิเชลเป็นชาวฝรั่งเศส ที่เดินทางเพื่อมาศึกษาประเทศไทย มิเชลชอบไปเสียทุกอย่าง โดยมีความฝันว่า วันนึงเขาต้องทำแผนที่กรุงเทพตามแบบฉบับของเขาเองให้ได้..

6. ป้าแหวง หรือ แสวง

   ป้าแหวงเป็นสาวประเภทที่ 2 หรือที่เขาเรียกกันว่า "กระเทยถึก" นั่นแหละ ป้าแหวงมีอาชีพขายเสื้อผ้าทั่วไป มีญาติห่างๆชื่อ วิชา ซึ่งเป็นคนที่ป้าแหวงประทับใจ

7. สันทัด 

    สันทัดเป็นชายหนุ่มที่เข้ามาทำงานหากินในกรุงเทพ หลังจากที่ลาสิกขาบทมาได้ไม่นาน เขารู้ว่าเขาต้องไปได้ดีในเมืองกรุงแห่งนี้  เขาได้งานเป็นยามในบริษัท ที่มีเสี่ยชัย เป็นเจ้าของกิจการ และงานนี้เอง ทำให้เขาได้มาพบเจอกับ มีนา และมีแววว่าเขาจะหลงชอบมีนาเสียด้วย

8. เจ๊ศรี 

    สมศรี หรือ เจ๊ศรี ผู้ดูแลศาลเจ้าในซอยอยู่สบาย เธอเป็นผู้ที่เบื่อโลกเป็นที่สุด อยากจะให้วันๆนี้หรือทุกๆวันหยุดฉายภาพซ้ำๆลงเสียที และแล้วก็เป็นไปตามหวัง ภายหลังเธอถูกไฟคลอกตายภายในศาลเจ้า เนื่องจากไม่สนใจที่จะดับไฟในกระถางธูป ที่เพิ่งจะมีงานไหว้เจ้างานใหญ่ไปหมาดๆ...

เรื่องราวของแปดชีวิต (7 คนกับสุนัข 1 ตัว) ที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในยี่สิบชั่วโมง

1+2. ลุงสุข+ป้าแสง : เพิ่งย้ายมาอยู่ในซอย และเป็นที่สงสัยของชาวซอยว่าสองคนนี้มีความสัมพันธ์อย่างไรกันแน่
3. ลุงต่อ : บ้านอยู่กลางซอย ไม่ทำงานทำการ วันๆนั่งกินแต่เหล้าอยู่บนแคร่หน้าบ้าน
4. มอมแมม : สุนัขจรจัดที่มักจะมาที่ศาลเจ้าทุกเช้า และหายไปตอนกลางคืน ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหนและมันหายไปไหน
5. มีนา : ลูกเป็ดขี้เหร่ในสายตาของคนในซอยที่ต้องการความรักและฝันอยากสวมชุดเจ้าสาว
6. มิเชล : หนุ่มฝรั่งเศสที่หลงเสน่ห์เมืองไทยจนย้ายมาอยู่ที่ประเทศไทย ทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะมาทำอะไร
7. ป้าแหวง : กะเทยแก่ที่ผ่านชีวิตรักมาอย่างโชกโชน แต่ก็ยังคงใฝ่หารักแท้อย่างไม่หวั่น
8. เจ๊ศรี : คนดูแลศาลเจ้าที่ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ ไม่คิดจะทำอะไร รอเวลาที่จะตายตามสามีไปเท่านั้น

824 เป็นเรื่องราวของ 8 ชีวิต ใน ยี่สิบสี่ชั่วโมง

โดยเนื้อเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องราวของคนใน "ซอยอยู่สบาย" ซอยที่เทคอนกรีตเพียงแค่ครึ่งซอย

มีตัวละครสำคัญๆอยู่ 8 ชีวิตและพล็อตเรื่องเชื่อมโยงตัวละครเข้าหากันเกิดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างกันภายในระยะเวลาหนึ่งวัน

ซึ่งตัวละครหลักๆใน 8 ชีวิต คือ

1. ลุงสุขและป้าแสง (เรื่องราวของคนสองคนซึ่งแสนจะแตกต่างกันในทุกทางจนไม่น่าเชื่อว่าจะมาใช้ชีวิตร่วมกันได้ไม่ว่ารูปแบบใด ก็จะกลายเป็นความทรงจำแสนล้ำค่าของคนหนึ่ง ขณะที่ไม่หลงเหลือตราประทับใดไว้ในความทรงจำของอีกคนหนึ่งเลย)

2. ลุงต่อ  (ผู้กล้ำกลืนกินศักดิ์ศรีมานานปี ไม่เคยมีใครรู้และย่อมไม่มีทางรู้ว่า แกต้องขายเลือดเลี้ยงชีวิตอันมีศักดิ์ศรีค้ำคอเช่นนี้มานานแล้ว)

3.มอมแมม (สุนัขจรจัดในศาลเจ้า มีกิจวัตรประจำวัน คือการวิ่งไปที่สะพานลอยทุกคืนเพื่อคอยเจ้านายมันที่มันไม่รู้ว่าเขาไม่มีทางกลับมา)

4.มีนา (สาวพริตตี้หน้าตาธรรมดา แต่มีดีที่ทรวดทรงองค์เอวที่คับอกคับใจ จนทำให้เธอเป็นที่สนใจในทุกทุกที่ที่ไปอย่างช่วยไม่ได้)

5.มิเชล (หนุ่มฝรั่งเศส ที่เชื่อว่าอยู่เมืองไทย ทำอะไรก็สำเร็จถ้ารอได้ และฝันอยากทำแผนที่กรุงเทพฯในแบบฉบับของตนเองกับการแอบหลงรักอดีตเทพีส้มโอบ้านตรงข้ามกัน)

6.ป้าแหวง (กระเทยไทยหัวใจมีฝัน และมีความสุขทุกครั้งที่ปล่อยให้หัวใจของตนเองได้โลดแล่นไปตามจังหวะของชีวิต ถึงแม้บางครั้งก็อ่อนเอื่อยเมื่อไร้สีสันและสิ่งกระตุ้นฝัน  บางครั้งก็ลดขึ้นจนแทบรั้งไม่อยู่ โดยเฉพาะยามได้พบหน้าเด็กหนุ่มคราวลูกคนหนึ่ง )

7.สันทัด(หนุ่มต่างจังหวัดที่มีน้ำใจและเข้ากับคนง่ายที่มาหาชีวิตที่รุ่งโรจน์ในเมืองหลวง และ ดูดวงตัวเองว่าต้องเดินทางจึงจะเจอเนื้อคู่ จึงหันเห มาเป็นพนักงานส่งเอกสารในออฟฟิศแห่งหนึ่ง)

8.เจ๊ศรี (คนดูแลศาลเจ้าที่ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อวันหนึ่งมีรถเบนซ์คันโตมาหยุดลงตรงหน้าศาลเจ้า)

ทุกชีวิตในเรื่องนี้ที่ล้วนมีหัวใจหนึ่งเดียวในอก หัวใจที่มีความหวัง ความฝัน และความรักที่จะมอบให้กันและกัน

เรื่องราวที่มีทั้งสุขสมหวังและโศกนาฏกรรม